สธ.เผยความครอบคลุมของวัคซีน ส่งผลให้กลุ่มเสี่ยงป่วยหนัก-เสียชีวิตลดลง


     


วันนี้ (30 ส.ค.) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงข่าวประสิทธิผลของวัคซีนโควิด 19 ในการลดป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ว่า การฉีดวัคซีนโควิด 19 เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ฉีดได้ 275,188 โดส สะสม 30,954,477 โดส เป็นเข็มแรก 23,018,371 ราย ครอบคลุม 32% ของประชากร และครบ 2 เข็ม 7,350,348 ราย ครอบคลุม 10.2% ของประชากร สำหรับการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตสูง พบว่า เมื่อฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมมากขึ้น แนวโน้มการเสียชีวิตลดลงชัดเจน จากสัปดาห์ที่ 22 ฉีดวัคซีนครอบคลุมร้อยละ 0.8 เมื่อถึงสัปดาห์ที่ 34 ฉีดได้ครอบคลุมร้อยละ 41 อัตราเสียชีวิตที่เคยสูงสุดถึงร้อยละ 18.34 ในสัปดาห์ที่ 25 ลดลงครึ่งหนึ่ง เหลือเพียงร้อยละ 9.27 ในสัปดาห์ที่ 30 และอัตราการป่วยรุนแรง/ ปอดอักเสบลดลงด้วยเช่นกัน

นายแพทย์เฉวตสรรกล่าวต่อว่า สำหรับแผนการจัดหาวัคซีนโควิด 19 ตั้งแต่กันยายน-ธันวาคม 2564 จะมีวัคซีนซิโนแวค 12 ล้านโดสในเดือนกันยายน-ตุลาคม เพื่อฉีดเป็นเข็ม 1 ในสูตรวัคซีนไขว้ ส่วนแอสตร้าเซนเนก้า จะส่งมอบให้ครบ 61 ล้านโดสในปีนี้ โดยกันยายนส่งมอบ 7.3 ล้านโดส และตุลาคม-ธันวาคม เดือนละ 10 ล้านโดส ส่วนไฟเซอร์ 30 ล้านโดส จะส่งมอบกันยายน 2 ล้านโดส ตุลาคม 8 ล้านโดส และพฤศจิกายน-ธันวาคมเดือนละ 10 ล้านโดส รวมวัคซีนที่จัดหาได้ในปี 2564 ทั้งสิ้น 124 ล้านโดส เมื่อรวมกับวัคซีนซิโนฟาร์มและโมเดอร์นาทำให้ไทยมีวัคซีน 140 ล้านโดส

ในการกระจายวัคซีนฉีดให้กลุ่มต่าง ๆ จะมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญและคณะกรรมการวิชาการให้ความเห็น โดยมีแผนฉีดวัคซีนเข็มแรกในกลุ่มเสี่ยง 608 ให้ได้ 70% ในพื้นที่ 12 จังหวัดภายในเดือนสิงหาคม และทุกจังหวัดในเดือนกันยายน และจะฉีดวัคซีนเข็ม 2 ในกลุ่มเสี่ยง 608 ให้มากกว่า 70% ในเดือนตุลาคม สำหรับประชาชนกลุ่มอื่นๆ จะฉีดเข็มแรกครอบคลุม 50% ทั้งประเทศในเดือนตุลาคม และครอบคลุม 70% ในเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้ ภายในธันวาคมทุกพื้นที่ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มให้ได้ 70% อย่างไรก็ตาม การลดจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต นอกจากการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรแล้ว ยังต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลา รวมถึงองค์กรต่าง ๆ ต้องเข้มมาตรการป้องกันภายในองค์กรด้วย