Tether หรือ USDT ซึ่งเป็นผู้ออก stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าราคาตลาด ได้ออกมาโต้ตอบรายละเอียดในรายงานการถือครองทุนสำรองเพื่อการลงทุนและให้สินเชื่อในอุตสาหกรรมคริปโต จากการรายงานของสำนักข่าว Bloomberg

จากการรายงานของ cointelegraph อ้างอิงถึง Zeke Faux นักข่าวของ Bloomberg ที่ระบุใน รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า เขาได้ทำการฟ้องร้อง Tether หลายครั้ง รวมถึง Giancarlo Devasini ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทได้ใช้เงินสำรองของบริษัทเพื่อลงทุน ซึ่งดูเหมือนจะขัดแย้งกับตำแหน่งสาธารณะที่เป็น stablecoin ของ Tether ที่ว่าการถือครองนั้นได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ตลอดเวลา

นอกจากนี้ Faux ยังอ้างว่า Tether ได้ลงทุนในบริษัทจีนและออกเงินกู้ในอุตสาหกรรมคริปโต “มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์” ตามรายงาน เขาสามารถยืนยันได้เพียงธนาคารเดียวในบาฮามาสที่ทำงานร่วมกับ Tether โดยตรง

“หากเงินกู้เหล่านั้นล้มเหลว แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ก็ตาม หนึ่ง Tether ก็จะกลายเป็นมูลค่าน้อยกว่า 1 ดอลลาร์” Zeke Faux นักข่าวของ Bloomberg กล่าว

อย่างไรก็ตาม “Tether ยังไม่ได้เปิดเผยว่ามันเก็บเงินไว้ที่ใด” โดย Faux กล่าว “หาก Devasini เสี่ยงมากพอที่จะได้รับผลตอบแทน 1% จากทุนสำรองทั้งหมดของ Tether นั่นจะทำให้เขาและหุ้นส่วนของเขามีกำไร 690 ล้านดอลลาร์ต่อปี แต่ถ้าเงินกู้เหล่านั้นล้มเหลว แม้เพียงเล็กน้อย หนึ่ง Tether ก็จะกลายเป็นมูลค่าน้อยกว่า 1 ดอลลาร์”

Tether เรียกรายงานดังกล่าวว่าเป็น “ความพยายามที่เหนื่อยเปล่า” และเป็นการนำเสนอข้อมูลแง่ลบที่จะบ่อนทำลายบริษัทโดยอิงจาก “การเสียดสีและข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง” ซึ่งผู้ออกเหรียญ Stablecoin ท้าทายความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มาของ Faux ว่าเป็นความพยายาม “ทำลายชื่อเสียงของ Giancarlo Devasini และผู้บริหารของ Tether” และยังคงอ้างว่าโทเค็น USDT ของตนนั้น “ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่” โดยอ้างถึงรายงานการรับประกันรายไตรมาส

ทั้งนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ Tether และ Bitfinex ตกลงที่จะชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐนิวยอร์ก 18.5 ล้านดอลลาร์ และจัดทำรายงานที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการเงินของบริษัท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงกับสำนักงานอัยการสูงสุดแห่งนิวยอร์ก การตรวจสอบครั้งล่าสุดได้ยื่นพร้อมข้อมูลที่รายงาน ณ วันที่ 30 มิถุนายน เจ้าหน้าที่อ้างว่า Tether บิดเบือนระดับที่โทเค็น USDT ได้รับการสนับสนุนโดยหลักประกันแบบ fiat

รายงานของบลูมเบิร์กมีหลายคนคาดเดาว่าบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับสองของจีนอย่าง Evergrande Group จะผิดนัดชำระหนี้ 3 แสนล้านดอลลาร์หรือไม่ จากข้อมูลของ Faux นั้น Tether ปฏิเสธที่จะเป็นหนี้ใดๆ จาก Evergrande แต่จะไม่ยืนยันว่ามีเอกสารทางการค้าจากบริษัทจีนอื่น ๆ หรือไม่