สำหรับบ้านไหนที่มีการติดตั้งเครื่องกรองน้ำไม่ว่าจะเป็นเพื่อการอุปโภคหรือบริโภค แน่นอนว่าเมื่อใช้เครื่องกรองน้ำไปได้ระยะหนึ่งก็จำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยน
ไส้กรองน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการเปลี่ยน
ไส้กรองก็มักจะเป็นบริการหลังการขายของเครื่องกรองน้ำที่เราซื้อมาติดตั้ง ซึ่งในวันนี้เราก็จะพามาทำความรู้จักกับ
ไส้กรองน้ำแต่ละชนิดกันว่ามีคุณสมบัติเป็นอย่างไรกันบ้าง
ไส้กรองน้ำมีกี่แบบ ไส้กรองหยาบ Sediment (PP) ผลิตมาจากเส้นใย Polypropylene ขนาดเล็กพันกัน มีความสามารถในการกรองอยู่ที่ 1-10ไมครอน ใช้สำหรับการกรองในช่วงแรกที่จะกรองพวกผงฝุ่น สารแขวนลอย สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มากับน้ำ ช่วยลดการอุดตันสำหรับการกรองในขั้นถัดไป ไส้กรองชนิดนี้สามารถเปลี่ยนได้บ่อยเนื่องจากมีราคาถูก
ไส้กรองคาร์บอนบล็อก CTO (Chlorine Taste & Odor) ทำจากคาร์บอนอัดแท่งแล้วพันด้วยตาข่ายเพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการกรองน้ำ มีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่น สารเคมี คลอรีน สี รวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ซึ่งเครื่องกรองน้ำทุกประเภทที่มีขายอยู่ก็จะมี
ไส้กรองแบบนี้อยู่ด้วย
ไส้กรองเกร็ดคาร์บอน GAC (Granular Activated Carbon) ใช้การบรรจุคาร์บอนเอาไว้ในกระบอกแต่ไม่ได้อัดเป็นแท่ง ช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการสัมผัสพื้นผิวของคาร์บอนกับน้ำได้มากขึ้นจึงทำให้มีประสิทธิภาพในการกรองและดูดซับสิ่งสกปรกได้ดียิ่งขึ้น
ไส้กรองเรซิ่น (Resin) มีคุณสมบัติช่วยลดปริมาณหินปูนทำให้น้ำไม่กระด้าง ทำให้น้ำมีรสชาติที่ดีสำหรับการดื่ม นอกจากนี้ในเครื่องกรองน้ำใช้ก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เรซิ่นเพื่อปรับน้ำดิบที่เป็นน้ำกระด้างเพื่อลดปริมาณหินปูนอีกด้วย
ไส้กรองเซรามิค (Ceramic) ผลิตมาจากเซรามิคอัดแท่ง โดยมีช่องว่างขนาดเล็กมากอยู่ที่ 0.1-0.3 ไมครอน จึงทำให้มีคุณสมบัติในการกรองเชื้อโรคหรือเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ที่ปะปนอยู่ในน้ำ สามารถนำออกมาล้างทำความสะอาดได้จึงไม่ต้องเปลี่ยนกันบ่อย ๆ นิยมนำมาใช้ในระบบกรองน้ำดื่มก่อนที่จะมีเครื่องกรองน้ำแบบ RO
ไส้กรอง MF ( Micro Filtration Membrane) ผลิตมาจากวัสดุสังเคราะห์ มีความสามารถในการกรองอยู่ที่ 0.1-10 ไมครอน จึงสามารถใช้กรองสิ่งสกปรกและสารแขวนลอยต่าง ๆ ในเบื้องต้นได้ดี มีน้ำหนักเบาและสามารถทำความสะอาดได้ง่ายไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
ไส้กรอง RO (Reverse Osmosis) ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ซึ่งเป็นระบบกรองน้ำที่มีความละเอียดและสะอาดมากที่สุดในตอนนี้ โดยมีความสามารถในการกรองได้ละเอียดถึง 0.0001 ไมครอน สามารถกรองเชื้อไวรัสได้ ทำให้น้ำที่ได้มีความสะอาดปราศจากเชื้อโรค นิยมใช้ในอุตสาหกรรมน้ำดื่มบรรจุขวดหรืออุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ต้องการน้ำสะอาดบริสุทธิ์
ไส้กรอง UF (Ultra Filtration Membrane) ผลิตมาจากวัสดุสังเคราะห์ มีความสามารถในการกรองอยู่ที่ 0.01-0.03ไมครอน จึงใช้กรองแบคทีเรียได้ดีแต่ยังไม่ถึงขนาดกรองเชื้อไวรัส ได้รับความนิยมสำหรับติดตั้งในเครื่องกรองน้ำในปัจจุบัน
ไส้กรอง NF (Nano Filtration) ทำจากวัสดุสังเคราะห์ที่มีความสามารถในการกรองละเอียดมากถึง 0.001 ไมครอน ซึ่งโดยมากก็จะใช้ในระบบอุตสาหกรรม แต่ยังไม่ค่อยมีการนำมาใช้ในระบบกรองน้ำการบ้านมากนักเนื่องด้วยไม่มีระบบน้ำทิ้งจึงทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย
ไส้กรอง UV (Ultra Violet) มักถูกนำไปติดตั้งร่วมกับเครื่องกรองน้ำต่าง ๆ ยกเว้นระบบ RO เพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคด้วยหลอด UV
ไส้กรอง Post Carbon ถูกติดตั้งอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของเครื่องกรองน้ำก่อนที่จะนำมาดื่ม ไม่มีคุณสมบัติทำให้น้ำสะอาดแต่จะช่วยปรับในเรื่องรสชาติและค่า pH ของน้ำ
ไส้กรองน้ำแร่ (Mineral) เป็นส่วนเสริมสำหรับผู้ที่ต้องการดื่มน้ำแร่ แต่ทั้งนี้ปริมาณแร่ธาตุที่ได้ในน้ำก็ยังน้อยกว่าที่ได้รับจากการรับประทานอาหารในแต่ละวัน
ดังนั้นการที่จะทำให้เครื่องกรองน้ำสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงควรให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลและเปลี่ยน
ไส้กรองตามระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Official Website :
https://www.homepro.co.th/c/KIT0903