“กระติ๊บ” ฝันเดินสายช่างสักประกวด ถึงแม้จะชอบรอยสัก


     


“กระติ๊บ” พร้อมเดินหน้าสู่อาชีพช่างสัก หวังเดินสายประกวด บอกแม้จะชอบรอยสักแต่ส่วนตัวไม่มีรอยสักในร่างกายเลย ลั่นจะพยายามให้ถึงที่สุดบนเส้นทางนี้ ชวนคนมีฝันลุกขึ้นมาสานฝัน อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลย พร้อมรับสมัครนางแบบ-นายแบบใครอยากสักกับตนติดต่อมาได้เลย

ฮือฮาไปไม่น้อยเมื่อ “กระติ๊บ ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล” ได้โพสต์คลิปทดลองสักในหนังเทียมเป็นครั้งแรกด้วยรูป จิตรกรชื่อดัง ซัลบาโด ดาลี ซึ่งได้เสียงตอบรับที่ดีจากทั้งคนในวงการและแฟนๆ โดยกระติ๊บมีความมุ่งมั่นว่าในช่วงล็อกดาวน์จากสถานการณ์โควิด-19 ไม่ได้ทำงาน จึงอยากหาอาชีพใหม่ๆ และสานฝันของตัวเองด้วยการเป็นช่างสักดู ซึ่งก็ได้รับคำชมและกำลังใจที่ดีมากๆ ทำให้กระติ๊บอยากจะเดินหน้าต่อกับอาชีพช่างสักควบคู่ไปกับการทำงานในวงการบันเทิง

“ขอบคุณมากๆ นะคะสำหรับกระแสตอบรับ ตัวกระติ๊บเองก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนสนใจเรื่องสักกันมากมายขนาดนี้ เป็นอะไรที่ติ๊บเองก็เซอร์ไพรส์เหมือนกันค่ะ เรียกว่าเป็นการเปิดโลกใหม่ให้กับติ๊บเหมือนกันด้วย ตอนที่เป็นข่าวติ๊บเพิ่งลองสักได้ 3 วันเองค่ะ พอเป็นข่าวก็มีร้านสักติดต่อมา อยากจะเป็นโปรโมเตอร์ให้ ซึ่งเขาเป็นสายแข่งสายประกวด เจ้าของร้านเป็นคนฝรั่งเศสเขาก็เลือกคนที่เก่งที่สุดในร้านของเขา ที่ได้แชมป์ที่ฝรั่งเศสมาสอนให้ติ๊บ”

ได้ลองสักบนผิวหนังคนจริงๆ แล้ว
“เรามีพื้นฐานศิลปะมาก็จริง ทำให้เราได้เรื่องแสงและเงา วางโครง การวางเส้น รู้น้ำหนักแสงและเงา แต่สิ่งที่ติ๊บยังต้องเรียนอีกเยอะเลยก็คือการสักมันไม่เหมือนกระดาษ กระดาษมันไม่มีชีวิต เราจะย้ำ เขียนทับ เพิ่มเงาตรงไหนก็ได้ เรื่อยๆ แต่ผิวหนังคน เราจะไปย้ำเยอะๆไม่ได้ มันจะแหก

ติ๊บก็มีโอกาสได้ลองสักกับผิวหนังคนจริงๆ มาแล้ว คือตื่นเต้นมาก แล้วครั้งแรกของติ๊บกับการเป็นช่างสักครั้งแรก ก็ดันไปเลือกจุดที่เจ็บที่สุดในร่างกายของเขาคือข้อเท้า ช่างก็ตกใจ คนโดนก็ตกใจ ต่างคนต่างตกใจ”

การสักไม่ง่ายเหมือนการวาดรูป แถมการสักแต่ละตำแหน่งก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน
“รูปแรกที่สักเป็นรูปคลื่นยักษ์ญี่ปุ่น เป็นภาพดังของทางญี่ปุ่น เป็นภาพคลื่นที่ม้วนตัวเข้ามา พอเราได้มาสักกับเนื้อหนังของคนจริงๆ มันไม่เหมือนกับที่เราลองสักกับหนังเทียมเลย มันติดเร็วมาก ซึ่งเราต้องวางแผนคิดไว้หมดแล้วก่อนจะเปิดหัวเข็ม ต้องวางแผนการทำงานทั้งหมดมาแล้ว ตอนที่สักในใจเรากลัวเขาจะดิ้น มันไปแล้วมันก็ไปเลยถ้าพลาด

รูปนั้นก็ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงเลยทั้งๆ ที่เป็นรูปเล็กนิดเดียว ถ้าเป็นจุดอื่นมันจะเร็วมาก 10 นาทีก็เสร็จแล้ว แต่เราดันเลือกตรงที่มันยาก สำหรับผลงานแรกก็รู้สึกพอใจนะคะ งานยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เราแค่ตีเส้นไว้ก่อน ยังไม่ได้ลงรายละเอียดให้เสร็จ โปรโมเตอร์ก็คอมเมนต์มาว่างานเราไม่น่าจะติดนะ คือเราสักตื้นไป คือการสักถ้าเราลงตื้นเกินไปมันจะไม่ติด ถ้าเราลงลึกเกินไปมันจะแตกเป็นเส้นเบลอ มันต้องลงน้ำหนักที่พอดีจริงๆ กับอวัยวะแต่ละส่วน

คือแต่ละส่วนในร่างกายก็จะมีการเปิดหัวเข็มไม่เท่ากัน ความลึกของเข็มที่เราจะแทงลงไปในแต่ละส่วนน้ำหนักก็จะไม่เท่ากัน สมมติเอวก็ต้องแทงอีกอย่างนึง ข้อมือต้องแทงอีกอย่างนึง ดีเทลมันเยอะมาก

ตอนแรกเรามองว่ามันเป็นเรื่องง่าย สักแค่นี้มันจะไปยากอะไร เราคิดไปเองว่ามันง่าย ไม่ยากหรอก พอเข้าไปสู่โลกนี้จริงๆ แล้วคือ เฮ้ย! มันยาก มีถึงขั้นทำยังไงให้สีติดแล้วลูกค้าจะบาดเจ็บน้อยที่สุด หรือว่าตอนที่เขาลอกออกมาจะเป็นแผลน้อยที่สุด มันมีเทคนิคมากมายที่ติ๊บรู้สึกว่าในศาสตร์นี้มันหยุดเรียนรู้ไม่ได้เลย”

เดินหน้าจริงจังกับเส้นทางสายนี้
“ที่ตั้งเป้ามองตอนนี้ก็กำลังใจดีมากๆ กำลังใจเรามาเต็ม เราตื่นเต้นกับมันแล้วเราก็มีแผนที่เราอยากจะทำแบบนั้นแบบนี้เต็มไปหมด ติ๊บยังไม่รู้ว่าสิ่งที่มันจะไปสุดที่ตรงไหน แต่เราก็จะพยายามกับมัน เพราะว่ามันเป็นอีกหนึ่งการทำงานศิลปะที่น่าสนใจ ก่อนหน้านี้ติ๊บก็มีเขียนรูป ติ๊บรู้สึกว่าในยุคสมัยนี้คนไม่ค่อยเสพงานศิลป์ที่มันเป็นชิ้นบนผืนผ้าใบ คนไม่ค่อยซื้อ แต่กับสัก ศิลปะที่อยู่บนร่างกายกลับมีรายได้มากมาย เขาไม่ปฎิเสธกันเลย เปิดกว้างทุกแนวเลย เลยรู้สึกว่าเราต้องทำ ต้องฝึกเยอะๆ เพื่อจะได้เจอสไตล์ของตัวเองเหมือนกัน ถ้ามีเวลาว่างก็อยากจะเอาเวลามาทุ่มให้กับตรงนี้ อยากจะเป็นช่างสักคนหนึ่งเลย

ติ๊บคงเป็นสายพวกรูปเหมือน ติ๊บชอบอะไรมันๆ งานโหดๆ ที่ดูตรงข้ามกับหน้าตาติ๊บ ชอบมันๆ รู้สึกว่ามันสนุกดี ก็ขอฝึกฝนไปเรื่อยๆ คิดว่าเร็วๆ นี้อาจจะมีคนมาให้ลองสักอีก ด้วยฟีดแบ็กดีมาก มีคนติดต่อไปที่ร้านว่าจะสักกับติ๊บนะ เพื่อนๆก็จะส่งรูปมาให้ช่วยเลือกว่าจะสักลายไหนดี บางคนอยากจะมาแก้งานกับเรา”

ฝันเดินสายช่างสักประกวด ส่วนตัวแม้จะชอบรอยสักแต่ตนยังไม่ขอมีรอยสักบนเรือนร่างตนเอง
“ตรงนี้คือมันเปิดกว้างจริงๆ เราก็ฝึกในแข่งขันในไทยก่อน แล้วไต่ระดับไปประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นไปเอเชีย แล้วค่อยไปเวทีอเมริกา ฝรั่งเศส ติ๊บเคยเห็นบทสัมภาษณ์ของช่างสักไทยคนนึงที่เขาอยู่นิวยอร์ก เขามีรายได้ดีมาก รวยมาก ยิ่งพวกช่างประกวด เรารู้สึกว่าเท่จังเลย แล้วยิ่งเรามาได้สัมผัสในวงการนี้จริงๆ มันยิ่งกว่าที่เราเคยได้รู้ มันรู้สึกโอ้มายก๊อด เปิดโลกทัศน์เรามากๆ อย่างช่างสักไทยนี่เจ๋งหลายคนเลยนะคะ มีคนต่างชาติมาจองคิวสักกันข้ามปีเลย คือคนไทยเก่งค่ะ ในเอเชียไทยก็เป็นอันดับต้นๆ ไม่แพ้เกาหลี ญี่ปุ่นเลย

ตัวติ๊บเองชอบตรงนี้มาสิบกว่าปีแล้ว ไอจีติ๊บจะติดตามช่างสักมาตั้งนานแล้ว ไว้เปิดดูก่อนนอน แต่ตัวติ๊บเองไม่มีรอยสักนะคะ ไม่มีเลย ติ๊บติดที่ติ๊บชอบไปญี่ปุ่น แล้วติดการเข้าออนเซ็น เขาห้ามคนมีรอยสักลงในออนเซ็น คือติดแค่ประเด็นนี้เลย แล้วเราชอบไปลงบ่อรวม ซึ่งช่างสักที่ไม่มีรอยสักเลยก็มีเยอะเหมือนกัน”

ชวนคนมีฝันอยากเป็นช่างสักเหมือนกันให้ลองสานฝันตัวเอง พร้อมรับสมัครนางแบบ-นายแบบใครอยากสักกับตนติดต่อมาได้เลย
“มันเป็นอาชีพที่เราอยู่กับมันแล้วเราไม่เบื่อมันด้วย วางไว้ว่าช่วงเดือนไหนคิวถ่ายไม่เยอะก็จะเข้าไปหาความรู้ที่ร้านบ่อยๆ ก็ถือเป็นนิวนอร์มอลกับชีวิตค่ะ การที่เราจะหางานที่มันตรงกับแพชชั่นของเรา และสร้างรายได้ให้เราด้วยได้ มันคือเรื่องดีมากๆ สำหรับคนที่คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรตอนนี้ดี ติ๊บรู้สึกว่าถ้าอาชีพสักเป็นอีกอาชีพนึงที่สนใจก็อยากจะให้มาลองกัน

เดี๋ยวนี้ต้นทุนมันไม่ได้มากมายแล้ว ราคาไม่แรงเหมือนสมัยก่อน มันเป็นอาชีพที่ตั้งต้นได้ง่ายมากเลย ติ๊บขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่สนใจแต่ลังเลที่จะเข้ามาอยู่บนถนนสายนี้ ติ๊บเองเคยคิดจะทำมาตลอด แต่ก็ไม่ทำเสียที ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป เพราะเรากลัวบ้าง กังวลบ้าง เราข้ามเส้นของเราไปไม่ได้ แต่มาถึงจุดนึงเรารู้สึกว่าถ้าเราชอบ เราสนใจ เราลองซื้ออุปกรณ์มาลองทำเองได้เลยจะได้รู้ว่าตัวเองชอบจริงไหม มาสานฝันให้ตัวเองดู อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ อย่างติ๊บพอได้มาลองสานฝันตัวเองดู แล้วเรารู้สึกว่าเราไปต่อได้ เรามีกำลังใจจะทำมัน

ติ๊บจะไม่หยุด ติ๊บจะขอไปต่อ มันดีกว่าเราวางฝันเราไว้อย่างนั้นเฉยๆ แล้วถ้าใครอยากจะให้ติ๊บสักให้ ตอนนี้ติ๊บต้องการคนที่จะมาเป็นแบบให้มากๆ ก็สามารถติดต่อที่ร้าน BKK INK TATTO STUDIO มาได้เลย ติ๊บยินดีมากๆ ค่ะ และอนาคตถ้าติ๊บจะลงสนามแข่งยังไงก็อยากจะให้ช่วยเชียร์ ช่วยส่งกำลังใจให้ติ๊บเหมือนอย่างตอนนี้ด้วยนะคะ”