“Wisdom International Buffet” ชี้แจง 3 ข้อ ประเด็นดรามากลุ่มเฟซบุ๊กเบ่งขอกินฟรี 

Prichas

  • *****
  • 2725
    • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     


ร้านบุฟเฟต์ดังย่านสยามสแควร์วัน “Wisdom International Buffet” ออกแถลงการณ์ตอบคำถามในประเด็นหลักๆ 3 ข้อเกี่ยวกับเหตุการณ์ดรามากลุ่มเฟซบุ๊กเบ่งขอกินฟรี พร้อมขอโทษวงการรีวิวที่ทำให้ได้รับผลกระทบ ยันปัญหาจบแล้ว

จากกรณีแอดมินกลุ่มบุฟเฟต์ในเฟซบุ๊กไปขอร้านบุฟเฟต์ดังสยามสแควร์วัน ได้คูปองมา 2 ใบ แต่ขอกินฟรีเพิ่มอีก 2 เป็น 4 คน แลกกับถ่ายรีวิวร้าน อ้าง “รีวิวคือการมากิน แล้วคนกินไม่เสียเงิน” แต่ทางร้านปฏิเสธ โดนข่มขู่สารพัด แถมบอกทางกลุ่มขอแบนร้าน ปรากฏว่าทัวร์ลงตามระเบียบ แอดมินอีกคนหนึ่งต้องขอโทษ ส่วนตัวต้นเหตุปิดเฟซบุ๊กหนี ทั้งนี้ ยังพบอีกว่าแอดมินคนนี้ไม่ธรรมดามีดีกรีเป็นถึงระดับ ดร. และกำลังจะซื้อหวยออนไลน์ได้ทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ซึ่งต่อมาได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาชี้แจงในกลุ่มบุฟเฟต์ต้นเหตุ พร้อมกับเปิดเผยว่าตอนนี้แอดมินคนดังกล่าวพ้นจากสภาพการเป็นแอดมินของกลุ่มแล้ว พร้อมออกมาขอโทษและจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

ต่อมา ดร.สันติ สาระพล แอดมินที่ถูกแฉเรื่องคูปอง ได้ออกมาโพสต์ข้อโทษ โดยระบุข้อความว่า “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อสิ่งทำไป ทั้งข้อความและกิริยาใดๆ ก็ตามที่ไม่ดีและไม่เหมาะสม ที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของผม จากการทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผมขอโทษและขออภัยร้าน Wisdom International Buffet ผมขอรับความผิดไว้เพียงผู้เดียว และจะนำบทเรียนที่เกิดขึ้นครั้งนี้มาปรับปรุงแก้ไข และระมัดระวังคำพูดและการกระทำต่างๆ ในอนาคตให้มากขึ้น ขออภัยต่อทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วยครับ”

ล่าสุดวันนี้ (15 ก.ย.) เพจ Wisdom International Buffet ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงดรามาดังกล่าว พร้อมตอบคำถาม 3 ประเด็นหลักๆ ดังนี้

“1. สาเหตุที่ทางร้านตัดสินใจลงโพสต์ดังกล่าว
: เนื่องจากทางร้านของเราก็เป็นร้านร้านหนึ่งที่ต้องการมีพื้นที่ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ร้านของตัวเอง และมองว่าในกลุ่มดังกล่าวก็เป็นพื้นที่ที่กลุ่มลูกค้าของทางร้านเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องรีวิวของร้านบุฟเฟต์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจากข้อความที่ทางคู่กรณีกล่าวว่า “ทางกลุ่มขอแบนร้านนะครับ ถ้าอยากเสียสมาชิกเกือบ 1 ล้านคนในกลุ่ม กับมูลค่าที่หายไปก็ตามใจครับ ในเมื่อแลกกับความรู้สึกที่เสียไป” เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ในเมื่อกลุ่มเกิดจากสมาชิกจำนวนมาก และโพสต์รีวิวต่างๆ ในกลุ่มก็มาจากลูกค้าที่มารับประทานที่ร้านของเราหรือร้านอื่นๆ จริง การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางมิชอบเพื่อแบนร้านใดร้านหนึ่งจากกลุ่มคนจำนวนมาก เป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ ทางร้านจึงจำเป็นต้องออกมาปกป้องตัวเอง และที่สำคัญอีกอย่างคือ ทางร้านไม่รู้ว่าเคยเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นกับร้านอื่นๆ ด้วยหรือไม่ ดังนั้นจึงอยากปกป้องธุรกิจร้านอาหารด้วยกัน ที่มีโอกาสจะโดนเอาเปรียบเหมือนทางร้านค่ะ

2. กรณีเรื่องจำนวนเวาเชอร์ที่ทางร้านให้แก่ทางแอดมินกลุ่ม
: ทางร้านได้มีการส่งเวาเชอร์ให้แก่ทางแอดมินหญิงของกลุ่มดังกล่าวจำนวน 8 ใบ โดยแบ่งเป็น ของร้านอื่นในเครือ 4 ใบ มูลค่าใบละ 2,000 บาท และของร้าน Wisdom International Buffet 4 ใบ มูลค่าใบละ 1,647 บาท (เป็นมูลค่าที่ใช้รับประทานในแพกเกจตัวบนสุดของทางร้าน)

3. สาเหตุการให้เวาเชอร์
: เพื่อต้องการแสดงความขอบคุณที่แอดมินสร้างกลุ่มกลุ่มนี้ขึ้นมา ทำให้ทางร้านสามารถที่จะดูความคิดเห็นของลูกค้าจริงๆ ทั้งของร้านเราเองและร้านคู่แข่งได้อย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะสามารถนำมาปรับปรุงการให้บริการของร้านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อขอบคุณที่แอดมินเป็นสื่อกลางช่วยประสานงาน ให้ทางร้านได้ติดต่อกับลูกค้าที่มาใช้บริการได้โดยตรง

โดยทางร้านไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดการ Cyberbullying บุคคลใดๆ และทางร้านต้องขออภัยสำหรับวงการนักรีวิวเป็นอย่างสูงที่อาจทำให้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ไปด้วย ทางร้านขอยืนยันว่ายังมีนักรีวิวที่ดีอีกมากที่มีจรรยาบรรณในการทำงาน โดยทางร้านได้มีโอกาสทำงานร่วมกันอย่างดีมาโดยตลอด อย่าโจมตีวงการนักรีวิวแบบเหมารวมเลยนะคะ

ทั้งนี้ ทางร้านได้รับการขอโทษจากทางแอดมินคนดังกล่าว รวมถึงแอดมินเจ้าของกลุ่มแล้ว จึงขอปิดโพสต์ต้นเรื่อง และใคร่ขอให้ลูกค้าทุกท่าน ประชาชน และพี่ๆ นักข่าวอย่าได้ถือโทษโกรธทั้งตัวบุคคลและแบนกลุ่มดังกล่าวเลย การมีพื้นที่ดีๆ ในการสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลร้านอาหารต่างๆ นั้นถือเป็นเรื่องดีๆ สำหรับวงการร้านอาหารค่ะ

อย่างไรก็ตาม ทางร้านต้องขอขอบพระคุณลูกค้า ประชาชน และสำนักข่าวอีกครั้ง ที่ให้กำลังใจ และความไว้ใจแก่ทางร้าน เราสัญญาว่าจะพยายามพัฒนาทั้งอาหารและบริการของร้านต่อไป เพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานอาหารและรับบริการที่ดีที่สุด หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ”