ไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 20.6 ล้านโดส คิดเป็น 24.2% ของประชากร

Joe524

  • *****
  • 2200
    • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     


อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 9 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 20,669,780 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,450 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 182.951 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ ภูเก็ต โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 75.9%

เมื่อวันที่ 9 ส.ค.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 4,450 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 42.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 351 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 166 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 182.951 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (74.0% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 75.42 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 20,669,780 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 53.84%

ในการฉีดวัคซีน จำนวน 4,450 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 20,669,780 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 15,986,354 โดส (24.2% ของประชากร)
-เข็มสอง 4,461,861 โดส (6.7% ของประชากร)
-เข็มสาม 221,565 โดส (0.3% ของประชากร)

2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 9 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 20,669,780 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 400,465 โดส/วัน

3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 6,606,930 โดส
- เข็มที่ 2 3,436,086 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 8,234,544 โดส
- เข็มที่ 2 653,195 โดส
- เข็มที่ 3 182,082 โดส

วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 1,1136,014 โดส
- เข็มที่ 2 360,601 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 31,866 โดส
- เข็มที่ 2 11,979 โดส
- เข็มที่ 3 39,483 โดส

4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 116.3% เข็มที่2 100.3% เข็มที่3 31.1%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 49.3% เข็มที่2 29.3% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 52.3% เข็มที่2 23.2% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 32.7% เข็มที่1 5.6% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 29.0% เข็มที่2 8.2% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 30.6% เข็มที่2 2.0% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 1.1% เข็มที่2 0.1% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 32.0% เข็มที่2 8.9% เข็มที่3 0.4%

5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 51.1% เข็มที่2 11.9% เข็มที่3 0.4% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 70.9% เข็มที่2 15.5% เข็มที่3 0.6%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 31.4% เข็มที่2 13.2% เข็มที่3 0.3%
- นนทบุรี เข็มที่1 33.5% เข็มที่2 11.2% เข็มที่3 0.3%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 33.6% เข็มที่2 6.3% เข็มที่3 0.3%
- ปทุมธานี เข็มที่1 28.3% เข็มที่2 6.2% เข็มที่3 0.2%
- นครปฐม เข็มที่1 18.0% เข็มที่2 4.2% เข็มที่3 0.4%

จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 14.7% เข็มที่2 4.7% เข็มที่3 0.3%
- ภูเก็ต เข็มที่1 75.9% เข็มที่2 59.8% เข็มที่3 0.6%
- ระนอง เข็มที่1 41.6% เข็มที่2 12.6% เข็มที่3 0.3%
- สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 22.1% เข็มที่2 8.6% เข็มที่3 0.2%
- พังงา เข็มที่1 41.1% เข็มที่2 11.4% เข็มที่3 0.4%
- กระบี่ เข็มที่1 23.1% เข็มที่2 6.9% เข็มที่3 0.2%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 34.4% เข็มที่2 4.4% เข็มที่3 0.4%

6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 182,951,774 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 75,426,933 โดส (18.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 24,542,437 โดส (48.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 24,479,750 โดส (11.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 20,669,780 โดส (24.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 13.949,503 โดส (48.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 9,405,819 โดส (8.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,167,147 โดส (74.0%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 2,620,478 โดส (18.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 189,927 โดส (33.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ

7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 66.19%
2. อเมริกาเหนือ 11.52%
3. ยุโรป 13.76%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.45%
5. แอฟริกา 1.70%
6. โอเชียเนีย 0.38%

8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,770.30 ล้านโดส (63.2% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 506.81 ล้านโดส (18.5%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 351.40 ล้านโดส (54.9%)
4. บราซิล จำนวน 151.71 ล้านโดส (37.1%)

9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (81.3% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (79.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (79.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. สิงคโปร์ (74.0%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
5. กาตาร์ (70.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อุรุกวัย (69.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. ภูฏาน (67.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. แคนาดา (67.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
9. ชิลี (67.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
10. เดนมาร์ก (66.6%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)