แอนท์ กรุ๊ป พา
แอสเซนด์ มันนี่ ขึ้นทำเนียบฟินเทคยูนิคอร์นไทยรายแรก หลังระดมทุนรอบล่าสุดจากนักลงทุนรายใหม่ “โบว์ เวฟ แคปปิตอล แมเนจเมนท์” และ “เครือเจริญโภคภัณฑ์” บนมูลค่าตลาดพุ่งกระฉูด 1,500 ล้านดอลล์ ประกาศโฟกัสมุ่งขับเคลื่อน "ทรูมันนี่ วอลเล็ท" (TrueMoney Wallet) และบริการทางการเงินดิจิทัลอื่นๆ ไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยตลาดอาเซียนฮอตแรงเห็นชัดจากบริษัทมียอดการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์ม (Total Payment Volume) รวม 6 ประเทศ ทะลุ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา โดยยอดการทำธุรกรรมของไทยเติบโตรวมสูงสุดที่ 84%
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้ง และประธานคณะกรรมการบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่การก่อตั้งแอสเซนด์ มันนี่ เป็นบริษัทฟินเทคที่มุ่งมั่นในการช่วยเหลือผู้คน บริษัทฯ กำลังขยายแพลตฟอร์มและบริการต่างๆ เพื่อช่วยให้คนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา ดังนั้น แอสเซนด์ มันนี่ จึงจัดว่าเป็น Financial Platform of Opportunity หรือ แพลตฟอร์มทางการเงินที่มอบโอกาสให้ผู้คนที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน ซึ่งรวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยทั่วทั้งภูมิภาค
“ความสำเร็จในการระดมทุนของแอสเซนด์ มันนี่ ยังเป็นความภาคภูมิใจในระดับชาติ เพราะสะท้อนศักยภาพของไทยในการสนับสนุนบริษัทฟินเทคและผู้ประกอบการสตาร์ทอัปในประเทศให้สามารถประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจไประดับนานาชาติได้”
แอสเซนด์ มันนี่ เป็นบริษัทฟินเทคชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุด บริษัทเผยว่ามีมูลค่าตลาดเพิ่มเป็น 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังระดมทุนรอบล่าสุดจำนวน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และก้าวสู่การเป็นบริษัทฟินเทคยูนิคอร์นรายแรกของประเทศไทย โดยแอสเซนด์ มันนี่ มีแผนเดินหน้าขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินในระดับภูมิภาค เพื่อช่วยให้ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินมีชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการเพิ่มจำนวนผู้ใช้ทรูมันนี่ วอลเล็ท และขยายบริการทางการเงินดิจิทัลต่างๆ เช่น สินเชื่อดิจิทัล การลงทุนดิจิทัล และการโอนเงินข้ามประเทศให้ครอบคลุมในระดับภูมิภาค
การระดมทุนครั้งล่าสุดนี้ยังได้บริษัท โบว์ เวฟ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ (Bow Wave Capital Management) จากสหรัฐอเมริกา มาลงทุนร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ และแอนท์ กรุ๊ป
ก่อนหน้านี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นองค์กรชั้นนำด้านความยั่งยืนของโลก UN Global Compact ระดับ LEAD การขับเคลื่อนด้านการระดมทุนครั้งนี้ถือเป็นการขยายแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ธุรกิจ 4.0 ของเครือฯ ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินแก่คนทุกภาคส่วน และตอบโจทย์เป้าหมายด้านความยั่งยืนระดับภูมิภาค
สำหรับบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด หลังจากก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 ปัจจุบันเป็นฟินเทคสัญชาติไทยเพียงรายเดียวที่ให้บริการครอบคลุม 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย พม่า กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ทั้งนี้ แอสเซนด์ มันนี่ คือผู้ให้บริการทรูมันนี่ แพลตฟอร์มดิจิทัลเพย์เมนต์และบริการทางการเงินดิจิทัลชั้นนำที่ให้บริการผู้ใช้มากกว่า 50 ล้านราย ผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ วอลเล็ท และเครือข่ายตัวแทนกว่า 88,000 รายทั่วภูมิภาค
มนสินี นาคปนันท์
มนสินี นาคปนันท์
น.ส.มนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า จากการที่แอสเซนด์ มันนี่ เป็นบริษัทฟินเทคสัญชาติไทยที่ได้เติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคนี้เปรียบเสมือนบ้านเกิด บริษัทฯ จึงต้องการช่วยให้ผู้คนทั่วทั้งภูมิภาคสามารถเข้าถึงโอกาสที่มากขึ้นผ่านนวัตกรรมและบริการทางการเงินที่มอบให้ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคน
“ที่ผ่านมา เราได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผู้ถือหุ้นและนักลงทุนซึ่งมาร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ในขณะเดียวกัน การได้ก้าวขึ้นเป็นบริษัทฟินเทคยูนิคอร์นยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้เราสามารถดำเนินพันธกิจให้สำเร็จตามเป้าหมายได้มากขึ้น ต่อจากนี้ เราจะร่วมกับพันธมิตรของเราในภูมิภาคเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนผ่านแพลตฟอร์มและบริการทางการเงินอันหลากหลายของเรา”
ธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์
ธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์
นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า แอสเซนด์ มันนี่ กำลังขับเคลื่อนสังคมไร้เงินสดและมอบบริการทางการเงินอันหลากหลายให้ผู้ใช้ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ วอลเล็ท บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจและบริการครอบคลุมการเงินดิจิทัลทั้งบริการสินเชื่อดิจิทัล บริการเงินฝากดิจิทัล และบริการลงทุนแบบดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์มการเงินที่ทำให้การเงินเป็นเรื่องง่าย ซึ่งช่วยให้ผู้มีรายได้น้อย ผู้ไม่มีงานประจำ รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินได้โดยง่าย
“นอกจากนี้ แอสเซนด์ มันนี่ ยังมีบริการโอนเงินภายในประเทศและโอนเงินข้ามประเทศผ่านเครือข่ายตัวแทน และได้ช่วยตัวแทนเหล่านี้ซึ่งส่วนมากเป็นผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยในท้องถิ่นให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น เราจะเดินหน้าพันธกิจของเรา ซึ่งคือการช่วยเหลือคนอีกหลายล้านให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการส่งมอบนวัตกรรม ประสบการณ์การใช้งาน และแพลตฟอร์มที่ลูกค้ามอบความไว้วางใจสูงสุด”
นายอิไท เลมแบร์เกอร์ ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าคณะผู้บริหารฝ่ายการลงทุน บริษัท โบว์ เวฟ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ กล่าวว่า ผลกระทบจากการระบาดใหญ่ได้เร่งการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทจึงภูมิใจที่ได้สนับสนุนแอสเซนด์ มันนี่ ให้บรรลุพันธกิจสำคัญในการขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของภูมิภาค
การร่วมทุนนี้เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อแอสเซนด์ มันนี่ ซึ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อปี 2563 บริษัทฯ มียอดการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์ม (Total Payment Volume) รวม 6 ประเทศ อยู่ที่ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของยอดการทำธุรกรรมรวมสูงสุดที่ 84% ระหว่างปี 2562-2563