“แกร็บ” มุ่งลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จัดฟีเจอร์ใหม่

Jenny937

  • *****
  • 1932
    • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     


แกร็บ (Grab) ผุดฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้กดเลือกเพื่อบริจาคเงิน 2 บาทต่อเที่ยวการเดินทางด้วยรถยนต์ หรือ 1 บาทต่อเที่ยวการเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ เพื่อสมทบในโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าไม้ในประเทศไทย ชวนผู้ใช้บริการร่วมลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ พร้อมเปิดตัวรายงานความยั่งยืนฉบับแรก

เนื่องในวันปลอดมลพิษโลก (Zero Emission Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 21 กันยายนของทุกปี แกร็บ ประเทศไทย โดย วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร ชวนผู้ใช้บริการมีส่วนร่วมในการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนเมื่อใช้บริการการเดินทางกับแกร็บ ผ่านฟีเจอร์ใหม่ โดยผู้ใช้ไม่เพียงสามารถกดเลือกเพื่อบริจาคเงินสมทบ แต่แกร็บ ประเทศไทย จะร่วมมือกับ Conserve Natural Forests (CNF) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฟื้นฟูภูมิทัศน์ป่าธรรมชาติ และเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ

ไทยเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่แกร็บเปิดตัวฟีเจอร์พิเศษสำหรับบริการการเดินทางเพื่อชดเชยคาร์บอน โดยผู้ใช้บริการที่เข้าร่วมการบริจาคเพื่อชดเชยคาร์บอนครบ 50 ครั้งขึ้นไปในทุกไตรมาสจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านทางอีเมลหรือแอปพลิเคชัน Grab ว่าผู้ใช้ได้รับต้นไม้ที่จะนำไปปลูกในป่า “GrabforGood” ซึ่งดำเนินการโดย Ecomatcher ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการปลูกต้นไม้ซึ่งได้รับการรับรองในระดับสากล โดยผู้ใช้สามารถตั้งชื่อ ติดตามการเติบโตของต้นไม้ หรือแม้กระทั่งดูข้อมูลของเกษตรกรที่ปลูกต้นไม้นั้นๆ ได้ผ่านทางแพลตฟอร์ม EcoMatcher Treetracker โดยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง grab.com/th/blog/co2neutral/



นายแอนโทนี ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งแกร็บ กล่าวถึงการเปิดตัวรายงานการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social & Governance หรือ ESG) ฉบับแรกของบริษัท ว่าธุรกิจของแกร็บนั้นมีความเกี่ยวเนื่องและสัมพันธ์โดยตรงกับชีวิตความเป็นอยู่และสวัสดิภาพที่ดีของคนในสังคม รวมถึงสิ่งแวดล้อม ดังนั้น แกร็บจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการส่งเสริมและสนับสนุนพาร์ทเนอร์คนขับและพาร์ทเนอร์ร้านค้า ให้มีโอกาสในการเข้าถึงรายได้อย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป

“รายงาน ESG ฉบับแรกของแกร็บนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินธุรกิจของเรา ที่ไม่ได้มุ่งแค่การสร้างความสำเร็จในเชิงธุรกิจ แต่ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและขับเคลื่อนชีวิตของผู้คนในสังคม ด้วยความโปร่งใสและความรับผิดชอบที่มีต่อคนกลุ่มต่างๆ ในวงจรธุรกิจของเรา”

รายงาน ESG ฉบับแรกของแกร็บมีเนื้อหาครอบคลุมหัวข้อสำคัญต่างๆ ตามมาตรฐาน GRI หรือ Global Reporting Initiative อาทิ ผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจและสังคม การสนับสนุนความหลากหลายและการยอมรับในความแตกต่าง การปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม โดยมีไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ พาร์ทเนอร์คนขับและพาร์ทเนอร์ร้านค้าของแกร็บสามารถสร้างรายได้รวมกว่า 7.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 225,780 ล้านบาท ผ่านแอปพลิเคชันแกร็บในปี 2563 ขณะที่ 46% ของพาร์ทเนอร์คนขับที่ร่วมตอบแบบสอบถามระบุว่าพวกเขาไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ ก่อนที่จะมาเป็นพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ



นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า 33% ของพาร์ทเนอร์ร้านอาหารเริ่มจำหน่ายอาหารผ่านช่องทางออนไลน์เป็นครั้งแรกกับแกร็บ และผู้ประกอบการขนาดเล็กเกือบ 600,000 รายเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ของแกร็บเพื่อจำหน่ายอาหารและสินค้าผ่านบริการแกร็บฟู้ดและแกร็บมาร์ท ในปี 2563

ขณะเดียวกัน รายงานชี้ว่า 59% ของผู้ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากแกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ในปี 2563 เป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่เข้าถึงโอกาสทางการเงิน และพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บกว่า 1.7 ล้านคนผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมต่างๆ ของแกร็บ อาทิ ความรู้ด้านดิจิทัล การปกป้องข้อมูล ความรู้ทางการเงิน คอร์สสื่อสารภาษาอังกฤษ เป็นต้น

ที่สำคัญ รายงานระบุว่าปริมาณขยะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวลดลงจากการงดใช้ช้อนส้อมพลาสติกรวม 380 ล้านชุดบนแกร็บ.