สธ.บุรีรัมย์ แจงฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ตำรวจจริง ผู้ว่าฯ สั่งตั้ง กก.สอบ


     

เมื่อวันที่ 25 ก.ค.64 หลังจากโลกออนไลน์แชร์ภาพการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ และมีการวิจารณ์กันเป็นวงกว้าง ว่าเป็น "ประเทศบุรีรัมย์" รวมถึงวิจารณ์การทำงานของ รมว.สาธารณสุข ว่าเอาวัคซีนมากระจุกที่จังหวัดเดียว

ล่าสุด ได้มีเอกสารการชี้แจงของสาธารณสุขจังหวัดออกมาแล้วว่า ตามที่ปรากฏว่ามีการเผยแพร่ผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคม ออนไลน์ เรื่องการฉีดวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) เข็มที่ 3 ในเขตพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ ทางสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ขอชี้แจงดังนี้

เนื่องจากมีการการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น รัฐบาลจึงมีนโยบายในการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบริการด่านหน้า เพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้มีศักยภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคมากขึ้น ตามมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 ประกอบกับมีข้อสั่งการของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 9 ก.ค.64 ที่ให้มีการฉีดวัคซีนกระตุ้น เข็มที่ 3 แก่บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข

จึงเป็นเหตุให้สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์และโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง จัดเตรียมวัคซีน จํานวน 7,964 โดส เพื่อฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้ให้บริการด่านหน้า และได้ดําเนินการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า กระตุ้นเข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบริการด้านหน้าแล้ว จํานวน 3,533 คน เพื่อเป็นการสร้างขวัญกําลังใจและความปลอดภัยแก่บุคลากรการแพทย์และบุคลากร ด่านหน้าตามนโยบายดังกล่าว

ทั้งนี้สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ของ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ อีกครั้งเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจหลังถูกโจมตี

ลาสุด นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ได้ออกหนังสือรายงานการแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไปยังปลัดกระทรวงสาธารณสุข ด้วยปรากฏข้อมูลตามสื่อโซเชียล สังคมออนไลน์ กรณีมีกระแสข่าวการฉีดวัคซีน ในพื้นที่ของอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ ให้กับเจ้าหน้าที่ที่บริการด่านหน้าอื่นที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์โดยตรง ในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนของหน่วยงานภาครัฐนั้น จึงได้ดำเนินการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว ผลการสอบข้อเท็จจริงเป็นประการใดจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป.