โกลด์แมนแซคหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจหลายประเทศอาเซียน เหตุโควิดกำลังพุ่ง มองไทยจีดีพีโตต่ำสุด
เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงานบทวิเคราะห์จากโกลด์แมนแซค เมื่อวันพฤหัสบดี (15 ก.ค.) ตามเวลาสหรัฐ ระบุ การแพร่กระจายของ
โควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่ติดต่อกันได้ง่ายขึ้นทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทยเพิ่มสูง ส่วนฟิลิปปินส์ไม่น่าจะผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะได้ในปีนี้เพราะโควิด
การที่โควิดกลับมาเพิ่มสูงอีกครั้งพร้อมกับข้อจำกัดที่เข้มงวดขึ้น มีแนวโน้มส่งผลต่อการเติบโตในช่วงครึ่งหลังของปีนี้หนักมากกว่าที่คาด โกลด์แมนหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจอินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ลงกว่า 100% ส่วนสิงคโปร์และไทยถูกหั่นน้อยกว่า
โกลด์แมนปรับลดคาดการณ์จีดีพีอินโดนีเซีย จาก 5.0% เหลือ 3.4% มาเลเซียจาก 6.2% เหลือ 4.9% ฟิลิปปินส์ จาก 5.8% เหลือ 4.4% สิงคโปร์จาก 7.1% เหลือ 6.8% ไทย จาก 2.1% เหลือ 1.4%
นอกจากนี้การติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สวนทางกับการฉีดวัคซีนยกเว้นในสิงคโปร์ ที่ยังล้าหลังหลายประเทศ เช่น สหรัฐและสหราชอาณาจักร (ยูเค)
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Our World in Data ชี้่วา สิงคโปร์ฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ประชากรกว่า 41% ฉีดวัคซีนครบแล้ว แต่ประเทศอื่นในภูมิภาคฉีดได้ช้ากว่า มาเลเซียฉีดวัคซีนครบโดสให้ประชากร 12.4% อินโดนีเซีย 5.7% ไทยและฟิลิปปินส์ ประชากรฉีดวัคซีนครบไม่ถึง 5%
สิงคโปร์ ที่กระชับมาตรการเว้นระยะเมื่อต้น พ.ค. เริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดในเดือนมิ.ย. นักเศรษฐศาสตร์โกลด์แมนคาดว่า มาเลเซียจะทำเช่นเดียวกันในไตรมาส 4 ส่วนประเทศอื่นๆ จะทำได้ช่วงครึ่งแรกของปี 2565
ส่วนเศรษฐกิจโลกที่เติบโตดีขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศที่เน้นการค้าเป็นหลักอย่างสิงคโปร์และมาเลเซียมากที่สุด มาเลเซียเป็นผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์สุทธิ มีแนวโน้มได้ประโยชน์จากการที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้นด้วย
ขณะเดียวกันการพึ่งพาการท่องเที่ยวมากกว่า พึ่งพาการค้าโลกน้อยกว่า อีกทั้งมีตัวรองรับนโยบายจำกัด มีแนวโน้มกดดันเศรษฐกิจอินโดนีเซียและไทยให้เติบโตน้อยลง และทำให้การฟื้่นตัวของเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ไม่ดีเท่ากับที่โกลด์แมนเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า