รีวิวไทยลีกวีก 6 บุรีรัมย์ฯนำจ่าฝูง,16 ทีมไร้ทีมไม่แพ้ท่าเรือฯรั้งรองฝูง

hs8jai

  • *****
  • 1341
    • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     


          เตะไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021-2022 เกมนัดที่ 6 ของหลายๆทีม นั่นเอง ผลงานแต่ละทีมเป็นอย่างไรย้อนไปดูกันอีกครั้ง

          อังคารที่ 5 ต.ค. 2564 เตะ 2 คู่ เจ้าบ้านชนะ 1 เสมอ 1 ทีม โดย ผลงานที่ค่อนข้างเซอร์ไพรซ์เป็น โปลิศเทโรฯ เปิดบ้าน ชนะ ชลบุรีฯ ได้ 2-0 นั่นเอง ก่อนหน้านี้ “มังกรโล่เงิน” ไม่เคยชนะ ชลบุรีฯ ในบ้านตัวเองได้เลย

          นัดนี้ เจนรบ โพธิ์ขี ซัด 2 เม็ด ในน. 8,24  ทำให้ “ฉลามชล” แพ้ 2 เกมติดต่อกัน


          เมืองทองฯ เปิดบ้าน ต้องไล่ตามตีเสมอ หนองบัวฯ 1-1 ทีมเยือน บุกนำก่อนจากจุดโทษ ของ แฮมิลตัน ซัวเรซ น. 4 ก่อนที่ ซาดอร์ มีร์ซาเยฟ จะซัดจุดโทษ ให้ เมืองทองฯ ไม่แพ้ ในน. 14

          เกม 4 คู่พุธที่ 6 ต.ค. 2564 บีจีปทุมฯ แพ้นัดแรกอย่างเร็วในปีนี้หลังปีก่อนไม่แพ้ใครในบ้านตัวเอง โดยเกมนี้เสียท่าให้ สิงห์เชียงรายฯ ไป 0-2 ทีมเยือนได้จาก เฟลิเป้ อโมริม น. 27 , พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล น. 45+ 2 เกมนี้บีจีฯไร้นายทวารมือ 1 อย่าง ฉัตรชัย บุตรพรม ที่ติดโทษแบน จากการได้ใบแดง เกมชนะ ขอนแก่น ยูฯ ไปด้วย

        ทรูแบงค็อกฯ เฉือนชนะ พีที ประจวบฯ 2-1 จาก ปกเกล้า อนันต์ น. 10 , ชนานันท์ ป้อมบุปผา น. 87 ส่วน “ต่อพิฆาต”ได้จาก สหรัฐ ปองสุวรรณ น. 66

ADVERTISEMENT


          ขอนแก่น ยูฯ พลาด 3 แต้มไปในถิ่นเมื่อนำก่อน ในน. 42 จาก อิ๊บสัน เมโล่ แต่ น. 47 อลงกรณ์ จรนาทอง มาโดนใบแดง สุดท้ายเสียท่าโดน นครราชสีมาฯ ตามตีเสมอ ท้ายเกม น. 86 จาก ควาเม่ คาริคารี่

          ส่วน บุรีรัมย์ฯ เปิดบ้าน เฉือนชนะ สมุทรปราการฯ ไปหวุดหวิด 2-1 ได้จาก จุดโทษ ของ ซามูเอล โรช่า  น. 33 , ศุภนัฎฐ์ เหมือนตา น. 79 ส่วน สมุทรปราการฯ ได้จาก เอลิอันโดร คอนซากา น. 43

        อีก 2 คู่ พฤหัสบดีที่ 7 ต.ค. 2564 สุพรรณบุรีฯ ชวด 3 แต้มทั้งที่เปิดบ้านนำก่อน 1-0 จาก สีหนาท สุทธิศักดิ์ น. 17 แต่ครึ่งหลังพลาดท่า โดน กฤษณนนท์ ศรีสุวรรณ ซัดตีเสมอให้ ราชบุรีฯ ได้ 1-1

          อีกคู่ เชียงใหม่ ยูฯ เปิดบ้าน แพ้ การท่าเรือฯ ไป 0-2 “สิงห์เจ้าท่า” ที่รั้งรองฝูงแม้จะมีแต้มเท่ากับ สิงห์เชียงรายฯ แต่ผลต่างประตูพวกเขาดีกว่า นัดนี้ การท่าเรือฯ ได้จาก เนลสัน โบนีลญ่า น. 66 , โกซุลกิ น. 72