“สิตางศุ์ บัวทอง” แฉแม่ลูกบุญธรรมอยากได้ลูกคืนเพราะละโมบ ยินดีจ่ายแต่เรียกร้องมากเกินไป เผยเด็กโดนทรมานจนสมองไม่ดี เหมือนเป็นออทิสติก ต้องเอามารักษาด้านสมอง ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้รู้สึกขยักแขยง มันมีคนแบบนี้จริงๆ ด้วยเหรอ

“แม่สิตางศุ์ บัวทอง” เน็ตไอดอลชื่อดัง ประกาศรับ “ตี๋น้อย จารุวัฒน์ บัวทอง” เด็กที่มาสมัครงานเป็นลูกบุญธรรม เพราะถูกชะตาและมีความสามารถพิเศษเห็นผีเหมือนตนเอง แถมตี๋น้อยก็ยังมีความกตัญญูบวชต่ออายุให้ งานนี้สิตางค์รักมากถึงขั้นให้เปลี่ยนมาใช้นามสกุลเดียวกันเลยทีเดียว แต่จู่ๆ ก็เจอแม่ตัวจริงทวงคืนลูกชาย งานนี้เจ้าตัวประกาศไม่คืนให้ แฉลูกบุญธรรมโดนแม่ทรมานตั้งแต่เด็กจนสมองช้าเหมือนเป็นเด็กออทิสติก ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้รู้สึกขยักแขยง ลั่นตนยินดีจ่ายเงินให้แต่เรียกร้องเยอะเกินไป

“ยินดีที่จะเสียเงินให้เขาทีแรก เพราะก็เข้าใจว่าเลี้ยงดูมาจนโต แต่เขาต้องการเยอะไป แล้วลูกชายเขาไม่ให้ ตอนแรกเราตกลงว่าจะจ่ายให้เขารายเดือนด้วยซ้ำ จะจ่ายค่าที่อยู่อาศัยให้ ทำสัญญาแฟลตให้ 4 แสน แต่ตอนหลังเขาร้ายเกิน แล้วก็ข่มขู่ฉันด้วยว่า จะให้ข่าวเลยนะ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันโดยแบล็คเมล์ โดนมาหลายเดือนด้วยซ้ำ คือพูดเรื่องนี้แล้วจะร้องไห้ (เสียงสั่นเครือ) คือรับเขาเป็นลูกบุญธรรม เพราะหน้าเขาเหมือนหลานชายเรา กินอะไรก็เหมือนกัน”

“ทางนั้นละโมบ แต่อันนี้ต้องถามลูกเขาเอง เพราะเราไม่รู้รายละเอียดครอบครัวเขา แต่เขาเป็นคนปกป้องแม่(สิตางศุ์) ถ้าไม่มีเขาแม่โดนแล้วนะ ทางนั้นไปร้องเรียนหน่วยงานอะไรตั้งเยอะ เผอิญลูกชายอายุ 23 แล้วค่ะ เขาก็เลยเลือกได้”

รับเป็นลูกบุญธรรมให้ใช้นามสกุลเดียวกัน
“ใช่ เป็นคนแรกเลย ที่จะเปลี่ยนนามสกุล แต่ตอนนี้รอเสร็จเรียบร้อยก่อน ต้องเช็กหลายอย่าง แต่ตอนนี้เขาก็ผ่านแล้วละ นิสัยใจคอ ความคิด เขาเป็นคนใจบุญเหมือนแม่ด้วย เด็กคนนี้เราเพิ่งรับเขามาเมื่อต้นปี เพราะเขามาสมัครงานหนังที่เราทำ เราก็เลือกจากรูปถ่าย พอลองฝึกงานเขานิสัยใจคอเหมือนเราเลย แล้วเขาก็มีสตอรี่ ที่ต้องการหนีจากการโดนทำร้ายด้วย”

“แต่เรื่องนี้ไม่อยากพูดเลย น่าเกลียดขยักแขยง คือแม่ของเขาป่วยแล้วรับยา เขาก็เลยโดนทรมานมาตั้งแต่เด็ก จนสมองช้า พอมาอยู่กับแม่ แม่รู้เลย เขาเหมือนเด็กออทิสติก คือเขาเกิดมาสมบูรณ์ แต่เขาโดนบีบคอ แล้วก็กรอกน้ำเปล่า (เสียงสั่นเครือ) ตอนแรกมาสมัครงานกับแม่ แม่ก็บอกให้ไปเอาเสื้อผ้า เขาบอกผมไม่มีเสื้อผ้า แต่เขาเป็นเด็กหาเงินเก่งมากนะ”

“เรามั่นใจว่าเด็กคนนี้เป็นลูกฉันเอง แล้วเราก็ไม่อยากให้ตัวทางนั้นมีบาปเพิ่ม ก็เลยไม่อยากเอาเรื่องใคร แม้แต่จะเล่าให้คนอื่น ยังไม่อยากเล่าเลย เพราะเรื่องมันน่าเกลียด มันมีคนแบบนี้จริงๆ ด้วยเหรอ มีเด็กโดนทำร้าย ก็สำหรับแม่บางท่านนะคะ อย่าทำร้ายลูกตัวเองเลย เด็กคนนี้ที่ฉันรับไว้ ตอนนี้เขาหายจากอาการเส้นเกร็ง อาการทางสมองแล้ว เราก็เริ่มที่จะส่งเขาเรียนภาษาก่อน แล้วก็เรียนตามระบบไป”