เชิญยิ้มจะไม่เป็นเพียงแค่ตลก! “เป็ด” สร้างแบรนด์ใหม่ใต้นามสกุล “เชิญยิ้ม” 

dsmol19

  • *****
  • 2408
    • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     


สร้างเสียงหัวเราะภายใต้ชื่อ “เชิญยิ้ม” มานานกว่า 41 ปี หลังจากเจอสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หัวเรือใหญ่ “เป็ด เชิญยิ้ม” หรือ “ดร. ธัญญา โพธิ์วิจิตร” เกิดปิ๊งไอเดียขยายตลาดบันเทิงสู่ตลาดอาหาร โดยร่วมมือกับ บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) สร้างแบรนด์ เชิญยิ้ม ทำผลิตภัณฑ์อาหารขึ้น และยังเตรียมเปิดไลน์นำเอาสินค้าของตลก และคนบันเทิงมาขายภายใต้แบรนด์เชิญยิ้มด้วย

“วันนี้ทางเราต้องการทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้นนอกจากธุรกิจบันเทิงเพื่อส่งต่อถึงลูกถึงหลานในอนาคต สิ้นคำว่าเป็ด เชิญยิ้ม หรือสิ้นคำว่าเชิญยิ้มไปมันก็ไม่มีใครมาต่อยอดได้ แต่ถ้าเรามาสร้างแบรนด์สักหนึ่งแบรนด์ขึ้นมา ภายใต้นามสกุลเชิญยิ้ม สร้างอาชีพใหม่เก็บไว้ให้กับลูกหลานมันก็มีประโยชน์ที่จะทำ

เชิญยิ้มจะไม่เป็นเพียงแค่ตลกไทยอีกต่อไป เชิญยิ้มมันเป็นซิมโบลิค 41 ปี เชิญยิ้มสร้างงานที่มีคุณภาพในทีวีทุกวันนี้มีเชิญยิ้ม  90 เปอร์เซ็นต์ สิ่งที่เราคิดอยากจะต่อยอดก็คือการสร้างไลน์อาหารขึ้นมา เด็ก วัยรุ่น คนทำงาน คนสูงอายุรู้จักเชิญยิ้มกันหมดก็เลยหาพันธมิตรมาร่วมสร้างแบรนด์ด้วยกัน”

เปิดตัวสินค้าแรกด้วยน้ำปลาร้าที่หวังส่งออกจำหน่ายไปทั่วโลก
“สินค้าแรกที่เป็นเรือธงของเราคือน้ำปลาร้าและตู้กาแฟ เราทำการบ้านกันหนัก ไม่ใช่อยากจะขายก็เอาออกมาขาย งานเชิญยิ้มมีคุณภาพตั้งแต่ขายเสียงหัวเราะ มาจนถึงวันนี้เรามาจับธุรกิจอาหาร เราก็ขายคุณภาพเช่นกัน เราค้นคว้าหาข้อมูล ทำวิจัยจนได้ออกมาเป็นน้ำปลาร้าเชิญยิ้ม ซึ่งเรามองไว้ว่าเราจะขายไปทั่วโลก”

นอกจากนี้ยังสร้างตลาดเอาท์เล็ตนำสินค้าของศิลปินตลก นักแสดงและคนทั่วไปมาร่วมขายสินค้าภายใต้แบรนด์เชิญยิ้ม นอกจากที่เรามีสินค้าของเราเองแล้ว เราก็จะมีเอาท์เล็ต คือมีตลาดสินค้าสำหรับศิลปินตลก หรือดารานักแสดง หรือใครก็ได้อยากจะเข้ามาใช้แบรนด์เชิญยิ้ม เช่น มีลูกชิ้นหมูปูเด๋อ แต่มาร่วมกับเราก็เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ลูกชิ้นเชิญยิ้ม บาย ปูเด๋อ ล่าสุดคุยกับหม่ำ เขามีไส้กรอกอีสาน ก็อาจจะเป็นไส้กรอกอีสานเชิญยิ้ม บาย หม่ำ จ๊กมก

เราต้องการสร้างรายได้ สร้างอาชีพใหม่ให้นักแสดงตลกเพิ่ม เล่นตลกด้วยและสามารถเปิดร้านสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วยได้ ตลกทุกคนเป็นเจ้าของแบรนด์นี้ได้ เราก็ทำส่วนแบ่งการตลาดกับพาร์ตเนอร์ของเรา”