ภาษีเถื่อนหุ้นใหม่ / สุนันท์ ศรีจันทรา


     


บรรยากาศการลงทุนหุ้นบริษัทจดทะเบียนใหม่ปีนี้คึกคัก ทำให้นักลงทุนที่จองซื้อได้รับผลตอบแทนที่ดี ขาใหญ่ที่มีโควตาจัดสรรรวยอู้ฟู่ บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหรืออันเดอร์ไรเตอร์มีรายได้ค่าธรรมเนียมงาม ๆ

แม้แต่สื่อหุ้นหลายสำนักยังรับทรัพย์กันนับสิบล้านบาท

9 เดือนแรก มีหุ้นใหม่รวมทั้งสิ้น 24 บริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 12 บริษัท และตลาด MAI 12 แห่ง โดยไม่เคยได้ยินว่า มีบริษัทใดไม่ต้องจ่ายเงินให้สื่อหุ้น

บริษัทจดทะเบียนใหม่ นอกจากต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือตลาด MAI แล้ว

ยังต้องจ่ายเงินให้สื่อหุ้น 2-3 สำนักด้วย แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม

เงินที่ต้องจ่ายให้สื่อหุ้น เป็นไปในรูปค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ ซึ่งบริษัทจดทะเบียนใหม่หลายแห่ง มีบริษัทประชาสัมพันธ์อยู่แล้ว และไม่มีความจำเป็นต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ แต่จำเป็นต้องจัดงบให้สื่อหุ้น

เพราะถ้าไม่จ่าย จะถูกรังควาน ถูกกลั่นแกล้งเขียนข่าวโจมตี ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์บริษัทและความเชื่อมั่นของนักลงทุน

งบโฆษณาที่จ่ายให้สื่อหุ้น ไม่แตกต่างจากภาษีเถื่อน หรือเรียกกันในวงการบริษัทที่ปรึกษาการเงินว่า “ค่าปิดปากสุนัข”

ถ้ายินยอมจ่ายแต่โดยดี สื่อหุ้นจะกลายเป็นสุนัขที่แสนเชื่อง ปิดปากเงียบ ไม่เห่าหอน ไม่เสนอข่าวที่เป็นลบต่อบริษัทจดทะเบียนใหม่ ทำให้ประชาชนผู้ลงทุน ไม่ได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วนรอบด้าน เพื่อพิจารณาตัดสินใจลงทุน

แม้จะเป็นหุ้นเน่า เข้ามาซื้อขายแล้วราคาหุ้นต่ำกว่าจอง หรือมีการปั่นราคาในวันแรก ๆ ที่เข้ามาซื้อขาย สื่อหุ้นก็จะเพิกเฉยในการตรวจสอบหรือวิพากษ์วิจารณ์

แต่ถ้าไม่ยอมจ่าย แม้เป็นบริษัทจดทะเบียนดีขนาดไหน จะถูกเขียนข่าวโจมตี ใส่สีตีไข่สร้างข่าวให้ร้าย ทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุน กระทบต่อการเสนอขายหุ้น

ไม่มีประกาศแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่รับรู้กันในแวดวงบริษัทที่ปรึกษาการเงินและอันเดอร์ไรเตอร์ว่า บริษัทจดทะเบียนใหม่รายใด ไม่จ่ายค่าปิดปากสุนัข จะถูกสื่อหุ้น 2-3 สำนัก หมายหัว ถูกตามราวี และตามเห่าหอนสร้างความรำคาญ

จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือตลาด MAI จะเป็นบริษัทขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ระดมทุน 100 ล้านบาทหรือหลายหมื่นล้านบาท ต้องจ่ายเงินฟาดหัวสื่อหุ้นเหมือนกันหมด

สื่อหุ้นบางสำนัก เรียกเก็บภาษีเถื่อนหุ้นบริษัทจดทะเบียนใหม่รายละเกือบ 4 แสนบาท บางสำนักเก็บ 3 แสนบาทต้น ๆ และปรับขึ้นทุกปีประมาณ 10%

เจ้าของสื่อหุ้นบางสำนัก กำลังแสยะยิ้มอย่างลำพองใจ เพราะปีนี้จะกวาดเงินค่าปิดปากสุนัขจากหุ้นใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรกรับจากหุ้นใหม่ 23 บริษัทไปเกือบ 10 ล้านบาทแล้ว ไม่รวมการตบทรัพย์บริษัทจดทะเบียนในรูปแบบอื่น

การจ่ายเงินฟาดหัวสื่อหุ้น เพื่อปิดปากไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์หุ้นใหม่ ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้นักตบทรัพย์ในคราบสื่อ สร้างความเสื่อมเสียให้วิชาชีพสื่อ

แต่ในแวดวงตลาดหุ้น ไม่มีใครออกมาโวยวาย หรือเปิดโปงพฤติกรรมบัดซบของสื่อหุ้นบางสำนัก

เพราะผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนใหม่ยอมจ่าย เพื่อตัดความรำคาญเสียงเห่าหอน ขณะที่บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินทำงานง่ายขึ้น บริษัทอันเดอร์ไรเตอร์ขายหุ้นใหม่ได้คล่องขึ้น

ส่วนที่ตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องกังวลว่า จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในการรับหุ้นใหม่ แม้จะพลาดรับหุ้นเน่าเข้ามา เนื่องจากนโยบายที่เน้นเชิงปริมาณมากกว่าการกลั่นกรองคุณภาพก็

ทุกฝ่ายได้ประโยชน์หมด เพราะไม่มีสื่อทำหน้าที่ตรวจสอบหุ้นใหม่ เพียงแต่เจียดเศษเงินปิดปากสุนัขเท่านั้น

แต่ประชาชนผู้ลงทุนต้องเสี่ยงกับหุ้นใหม่ เสี่ยงตั้งแต่การจองซื้อ และเสี่ยงการเก็งกำไรช่วงหุ้นใหม่เข้าซื้อขายวันแรก ๆ เพราะสื่อหุ้นจะไม่นำเสนอข่าวด้านลบหุ้นใหม่ แม้จะเป็นบริษัทที่เคยมีประวัติไม่ดี หรือเป็นกิจการที่มีความเสี่ยง

ไม่ส่งสัญญาณเตือนหุ้นใหม่ที่ตั้งราคาเสนอขายหุ้นแพงเกินไป ไม่วิพากษ์วิจารณ์ราคาหุ้นที่ถูกลากขึ้นอย่างร้อนแรง และมีพฤติกรรมเข้าข่ายการสร้างราคาช่วงที่เข้าซื้อขายวันแรก ๆ

ภาษีเถื่อนหุ้นใหม่ กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว บริษัทจดทะเบียนรายใดไม่จ่าย นักตบทรัพย์ในคราบสื่อหุ้น จะแสดงฤทธิเดชเป็นอันธพาลอาละวาดรังควานไม่เลิก

นักตบทรัพย์ในคราบสื่อกลุ่มนี้ ไร้จิตสำนึกในจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพ ด้านพอที่จะทนต่อเสียงประณามจากสังคมตลาดหุ้น

ตลาดหุ้นที่ฟอนเฟะ เต็มไปด้วยหุ้นเน่า หุ้นปั่น เพราะมีนักตบทรัพย์ในคราบสื่อที่ทำตัวเป็นเห็บเหา พร้อมก้มหัวรับใช้ใครก็ตามจ่ายเงินฟาดหัวอย่างไร้ศักดิ์ศรีอยู่มากมาย

กลายวงจรอุบาทว์อันบัดซบในวงการสื่อสายตลาดหุ้น