เที่ยวทิพย์ที่ “อช. ภูผาม่าน” สัมผัสม่านหมอก ชมฝูงค้างคาว เที่ยวถ้ำสวย-น้ำตกงามสุดประทับใจ


     


ในช่วงหน้าฝนเช่นนี้ หลายคนคงคิดถึงสายหมอกและอากาศเย็นๆ ท่ามกลางธรรมชาติแสนสมบูรณ์ ซึ่ง “อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน” ก็เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่เป็นจุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาดในเวลาเช่นนี้

แต่ในขณะนี้ทาง อช. ภูผาม่าน ยังไม่เปิดการท่องเที่ยวตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ครั้งนี้จึงขอพามา “เที่ยวทิพย์” สัมผัสบรรยากาศแห่งม่านหมอกกันให้หายคิดถึงกัน


สำหรับ “อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน” เรียกตามชื่อของภูเขาเทือกหนึ่งทางตอนใต้ของอุทยานฯ ที่มีหน้าผาสูงชันคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มองดูเหมือนกับผ้าม่านผืนใหญ่ อยู่ในท้องที่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และอำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย มีเนื้อที่ประมาณ 350 ตารางกิโลเมตร หรือ 218,750 ไร่

ภายในถ้ำพญานาคราช (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)
ภายในถ้ำพญานาคราช (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)

เมื่อมาสัมผัสม่านหมอกที่ภูผาม่านกันแล้ว ต้องไม่พลาดแวะเที่ยวชมถ้ำสวยงามมากมายของที่นี่ เริ่มที่ “ถ้ำพญานาคราช” เป็นถ้ำที่มีประติมากรรมทางธรรมชาติที่สวยงาม ภายในห้องโถงใหญ่ห้องแรกที่พบ มีเสาหินขนาดใหญ่ ที่แบ่งกั้นพื้นที่ภายในห้องโถงถ้ำออกเป็นห้องๆ

มีม่านหินปูนที่พลิ้วบางสวยเหมือนผ้าม่าน ทำนบหินปูนชั้นน้ำตก และหินปูนฉาบ ที่ไหลอาบตามเสาหินและพื้นถ้ำที่มีความแวววาวเหมือนเพชร เสาหินบางจุดมองคล้ายหมือนผู้หญิง ลานม่านหินปูนบางจุดเหมือนลานเวที ที่ธรรมชาติได้ตกแต่งเอาไว้ และจุดอื่นๆ อีกตามแต่จินตนาการ

ภาพเขียนสีโบราณภายในถ้ำลายแทง (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)
ภาพเขียนสีโบราณภายในถ้ำลายแทง (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)

ถ้ำต่อมาคือ “ถ้ำลายแทง” เป็นถ้ำที่อยู่บนเขาไม่สูงนัก บริเวณปากถ้ำเป็นลาน ด้านซ้ายมือเป็นผนังหินสูงที่มีภาพเขียนสีโบราณ มีลักษณะเหมือนภาพคน สัตว์ในอริยาบทต่างๆ ภาฝ่ามือและเครื่องมือเครื่องใช้ประมาณ 74 ภาพ ซึ่งเป็นภาพที่แสดงถึงอารยธรรมและการดำรงชีวิตของคนในยุคก่อนประวัติศาสตร์กว่า 2,000 ปี

ฝูงค้างคาวออกหากิน (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)
ฝูงค้างคาวออกหากิน (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)

อีกหนึ่งถ้ำไฮไลต์ก็คือ “ถ้ำค้างคาว” ซึ่งเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ปากถ้ำอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 100 เมตร ภายในถ้ำมีค้างคาวปากย่นอาศัยอยู่จำนวนมาก ในช่วงเวลา 17.30-18.30 น. ของทุกวัน ฝูงค้างคาวจะบินเป็นริ้วขบวนออกมาจากถ้ำเป็นสาย พลิ้วไหวไปมาน่าตื่นตาตื่นใจ

หินงอกหินย้อย (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)
หินงอกหินย้อย (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)

นอกจากนั้นยังมีถ้ำภูตาหลอ, ถ้ำเกล็ดแก้ว และถ้ำผาพวง ซึ่งทำสามถ้ำนี้ภายในจะมีหินงอกหินย้อย ม่านหินปูน เสาหิน รูปร่างแปลกตามากมาย ตามแต่จินตนาการว่าจะมองเห็นเป็นรูปของอะไร หากใครชอบการเดินศึกษาธรรมชาติภายในถ้ำมาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน

ผานกเค้า (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)
ผานกเค้า (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)

และอีกหนึ่งจุดที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ “ผานกเค้า” เป็นภูเขาสูงตั้งตระหง่านอยู่ริมลำน้ำพอง อยู่ห่างจากตัวเมืองขอนแก่น 125 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดแวะพักของรถทัวร์และนักเดินทางที่จะขึ้นภูกระดึงนั่นเอง

โดยลักษณะของผานกเค้าจะเป็นภูเขาหินปูน มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมอยู่ ตัวภูเขามีรูปร่างมองคล้ายกับ “นกเค้า” ลักษณะผาเหนือจะงอยปากขึ้นไป มีลักษณะเป็นหงอน ถัดลงมาเป็นหินกลมโค้งต่ำจากส่วนหงอนลงมาเป็นส่วนหัว ตรงกลางหัวมีรอยหินกะเทาะเป็นสีส้มอยู่ในตำแหน่งดวงตา ต่ำลงมาจากส่วนหัวจะถึงแนวปีกทั้งสองข้างที่กางออก

นำ้ตกตาดใหญ่ (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)
นำ้ตกตาดใหญ่ (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)

ส่วนใครที่ชื่นชอบน้ำตก ภายในอุทยานฯ ก็มีน้ำตกสวยๆ อยู่หลายแห่งเช่นกัน อย่าง “น้ำตกพลาญทอง” เกิดจากลำห้วยตากว้าง สูงประมาณ 7 เมตร ในช่วงปลายหน้าฝนน้ำจะมีสีฟ้ามรกต เนื่องจากแร่แคลเซียมคาร์บอเนตที่ละลายอยู่ในน้

น้ำตกตาดฟ้า (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)
น้ำตกตาดฟ้า (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)

และยังมี “น้ำตกตาดใหญ่” เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่เกิดจากลำห้วยตาดฟ้า สูงประมาณ 80 เมตร ในอดีตเกิดการเคลื่อนตัวของแผ่รเปลือกโลก เกิดการกัดเซาะพุพังตามธรรมชาติ กลายเป็นหน้าผาสูงชัน รวมถึงมี “น้ำตกตาดฟ้า” เกิดจากลำห้วยตาดฟ้า สูงประมาณ 10 เมตร ไหลผ่านชั้นหินลดหลั่นกันลงมาสวยงามไม่แพ้กัน

ลานกางเต็นท์ (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)
ลานกางเต็นท์ (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)

ส่วนใครที่เป็นสายกางเต็นท์ ทางอุทยานฯ จะมีลานเต็นท์ไว้ให้บริการเช่นกันอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ นักท่องเที่ยวสามารถมากางเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติสุดเขียวขจี ในยามค่ำคืนก็มานอนชมดาวกันได้

นอนชมดาวยามค่ำคืน (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)
นอนชมดาวยามค่ำคืน (ภาพจาก อช.ภูผาม่าน)

หากใครคิดถึงบรรยากาศเหล่า อดใจรอวันที่ทางอุทยานฯ กลับมาเปิดให้ท่องเที่ยวอีกครั้งกันได้ สามารถติดตามข้อมูลได้ที่อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน - Phuphaman National Park