แม้สถานการณ์ระบาดของโควิดระลอกใหม่ ยังไม่คลี่คลาย
องค์กรธุรกิจส่วนใหญ่ ยังอยู่ในโหมดรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า แต่ปรากฏการณ์ของโควิดได้แสดงให้เห็นถึงทิศทางและรูปแบบการทำงานในอนาคตที่จะเปลี่ยนโฉมไปจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
สำนักวิจัยข้อมูล เอเดลแมน ดาตา แอนด์ อินเทลลิเจนซ์ (DxI) ได้เผยแพร่รายงานการสำรวจ 2021 Work Trend Index ซึ่งรวบรวม
ข้อมูลจากแรงงานกว่า 30,000 คน จาก 31 ประเทศ พบว่า ร้อยละ 41 ของแรงงานที่ทำการสำรวจทั่วโลก กำลังพิจารณาจะออกจากงานที่ทำในปัจจุบันภายในสิ้นปีนี้ และร้อยละ 46 มีความเป็นไปได้ที่จะย้ายงาน เนื่องจาก สามารถทำงานที่บ้านได้
อิทธิพลจากโควิด ได้ก่อให้เกิดความจำเป็นในการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) โดยในหลายส่วนงาน พบว่า มิได้ทำให้ผลิตภาพด้อยลงไปกว่าเดิม ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสนับสนุนการทำงาน และลูกจ้างรู้สึกว่า ต้องการทำงานที่บ้านมากขึ้น แม้สถานการณ์โควิดจะคลี่คลาย ขณะที่ นายจ้างมีความคาดหวังให้พนักงานกลับมาทำงานตามปกติยังสำนักงาน
สถานการณ์ปัจจุบัน ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า เรากำลังอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านรูปแบบการทำงาน โดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลหนุนหลัง และพฤติกรรมนี้ จะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่กับระบบนิเวศการทำงานทั่วโลกในไม่ช้า
แนวโน้มของสำนักงานในอนาคต และระบบนิเวศการทำงานที่จะเปลี่ยนแปลงไป หลังสถานการณ์โควิด ได้แก่
สำนักงานในอนาคต จะไม่มีคำว่า โต๊ะหรือที่นั่งประจำ แต่จะเป็น Hot Desk ที่หมุนเวียนสลับกันใช้ทำงาน สำหรับพนักงานที่เข้าออฟฟิศ ความจำเป็นที่จะต้องมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ในสำนักงานลดน้อยลง และอาจไปไกลถึงขั้นที่ พื้นที่สำนักงาน จะมีสภาพคล้ายโรงแรม เป็น Shared Office ที่สามารถเช่าใช้เป็นรายวัน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันกว่าที่สำนักงานประจำเคยมี
สำนักงานในอนาคต จะมีลักษณะกระจายตัวไม่รวมศูนย์ (Decentralized) ไม่จำเป็นต้องมีฝ่ายงานต่าง ๆ อยู่ที่เดียวกัน สำหรับบรรษัทข้ามชาติ ฝ่ายงานบัญชีการเงิน อาจอยู่คนละประเทศกับฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฝ่ายผลิตจะมีโรงงานตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบ หรือฝ่ายขายและการตลาด อาจใช้วิธีเช่าโหนดกระจายในท้องถิ่นหรือชุมชนที่สามารถเข้าถึงตัวกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ในเมื่อองค์กรไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานใหญ่ ซึ่งเคยเป็นที่รวมของบุคลากรจำนวนมาก ทำให้พนักงานไม่มีความจำเป็นต้องเดินทางมาสำนักงานดังแต่ก่อน อุปสงค์ในเรื่องที่พักหรือบ้านหลังที่สอง ให้อยู่ใกล้สำนักงาน เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายเดินทาง จะหายไป
ภูมิทัศน์ในเรื่องที่พักอาศัยและอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนทำงานจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ คอนโดมีเนียมราคาแพงในเมืองอาจมีสภาพล้นตลาด บ้านชานเมืองที่มีพื้นที่ใช้สอย อากาศดี และราคาไม่แพงอาจจะกลับมาเป็นตัวเลือกของคนรุ่นใหม่
ค่าใช้จ่ายสวัสดิการที่เป็นค่าเดินทาง ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง จะได้รับการจัดสรรใหม่ไปเป็นค่าสาธารณูปโภค ค่าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตามปริมาณรับส่งข้อมูลที่ใช้เพื่อการทำงานที่บ้าน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต จะมีบริการบัญชีผู้ใช้รองรับการคำนวณค่าบริการตามสัดส่วนที่เป็นการใช้งานส่วนตัวและการเข้ารหัสข้อมูลใช้งานสำหรับองค์กร เพื่อแยกรายการใช้จ่าย (ลดภาระ) ให้แก่ผู้ใช้บริการ
ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและตกแต่งภายใน จะเปิดให้บริการรับก่อสร้างและตกแต่งสำนักงานที่บ้าน พร้อมติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ระบบสำรองไฟฟ้า เครื่องใช้สำนักงาน อุปกรณ์และเครือข่ายสื่อสารแบบครบวงจร
เหล่านี้ คือ ตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นสำหรับการทำงาน และสภาพแวดล้อมการทำงาน แม้สถานการณ์โควิดได้ผ่านพ้น โดยที่นายจ้างมิอาจเพิกเฉยหรือละเลยการมาถึงของแนวโน้มสำนักงานในอนาคต