UVทุ่ม560ล.เข้าซื้อหุ้น60%ใน'พัฒนาอินเตอร์คูล'รุกธุรกิจใหม่

Jenny937

  • *****
  • 1932
    • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     


"ยูนิเวนเจอร์ แคปปิตอล วัน" (UVCAP1) เข้าลงทุนซื้อหุ้นในบริษัท พัฒนาอินเตอร์คูล จำกัด (PIC) ในสัดส่วน 60% รวมมูลค่า 560 ล้านบาท เพื่อสร้างโอกาสการลงทุนผ่านกลุ่มธุรกิจใหม่ ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตตู้แช่เชิงพาณิชย์มากกว่า 30 ปี รองรับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายกำพล ปุญโสณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV เผยว่า คณะกรรมการอนุมัติให้บริษัท ยูนิเวนเจอร์ แคปปิตอล วัน จำกัด หรือ UVCAP1 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มบริษัท ยูนิเวนเจอร์ ที่เน้นดำเนินกิจการในการลงทุนกับธุรกิจที่มีศักยภาพเป็นหลัก เข้าลงทุนในบริษัท พัฒนาอินเตอร์คูล จำกัด หรือ PIC เป็นจำนวน 60% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดคิดเป็นมูลค่า 560 ล้านบาท

“การเข้าลงทุนใน PIC ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสการลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพของการเติบโตทางธุรกิจ เนื่องจาก PIC เป็นบริษัทผู้ผลิตตู้แช่เชิงพาณิชย์ เพื่อใช้ในธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจผลิตตู้แช่เชิงพาณิชย์มากกว่า 30 ปี และมีการออกแบบ ผลิต บริการหลังการขาย วิจัยพัฒนาสินค้าตามความต้องการของตลาดอย่างครบวงจร อาทิ การพัฒนาอุปกรณ์ตามแนวคิด Cloud Kitchen (พื้นที่ห้องครัว และอุปกรณ์ครัวใช้ร่วมกันสำหรับร้านอาหาร) และยังคงมีแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสอดคล้องกับกลยุทธ์การปรับโครงสร้างและสร้างความสมดุลในการลงทุนของบริษัทฯ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้หลักจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้และกำไรจากการดำเนินงานของ PIC จากการจัดทำงบการเงินรวมได้ทันทีภายหลังการเข้าลงทุน ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/64 (ปีปฏิทิน)”

นายคิม ตั้งสิริมานะกุล กรรมการ บริษัท พัฒนาอินเตอร์คูล จำกัด หรือ PIC กล่าวเสริมว่า การร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท ยูนิเวนเจอร์ แคปปิตอล วัน จำกัด ในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งโอกาสในการร่วมพัฒนาธุรกิจที่สำคัญในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ทั้งด้านเทคโนโลยีและความคุ้มค่า เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแกร่งในอนาคต

สำหรับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของ บริษัท พัฒนาอินเตอร์คูลฯ ในปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 514.56 ล้านบาท หนี้สินรวม 264.28 ล้านบาท มีรายได้จากการขายและบริการ 619.17 ล้านบาท รายได้อื่น 10.33 ล้านบาท ต้นทุนการขายและบริการ 441.22 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ 74.86 ล้านบาท กำไรก่อนต้นทุนทางการเงินแลภาษีเงินได้ 113.42 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 87.84 ล้านบาท.